วิทยุสื่อสาร zello คืออะไร ทำไมใครๆ ก็ใช้กัน

วิทยุสื่อสาร zello คืออะไร ทำไมใครๆ ก็ใช้กัน

การสื่อสารผ่านวิทยุนั้น ถึงแม้จะได้รับความนิยมน้อยลงไปก็ตาม แต่ก็ยังมีหลายงานที่จำเป็นจะต้องใช้วิทยุ ช่วยให้การสื่อสารง่ายและรวดเร็ว เช่น การจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในองค์กร หรือการใช้งานอาสาสมัคร กู้ภัย มูลนิธิต่าง ๆ ที่ต้องการความสะดวก หรือแม้แต่การรักษาความปลอดภัย ซึ่งในปัจจุบันวิทยุสื่อสารที่นิยมมากที่สุดก็คือ วิทยุสื่อสาร zello เป็นวิทยุสื่อสารที่ถูกพัฒนาขึ้นมาให้ใช้งานโดยเฉพาะเจาะจงกับระบบ zello เป็นหลักซึ่งใช้อินเทอร์เน็ตเข้ามาแทนที่การใช้งานคลื่นความถี่ ทำให้มีประโยชน์อย่างมากในการสื่อสาร ซึ่งเราจะพาคุณไปดูกันว่า วิทยุสื่อสาร zello นี้มีข้อดีอะไรบ้าง

  • เป็นวิทยุสื่อสารที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานกับอินเทอร์เน็ตโดยเฉพาะ ทำให้เราสามารถสื่อสารได้ไกลกว่าการใช้คลื่นความถี่ในการสื่อสาร
  • สามารถเพิ่มรายชื่อการติดต่อ หรือสร้างห้องสนทนาเอาไว้สื่อสารได้
  • วิทยุสื่อสาร zello เป็นวิทยุที่มีเสียงเหมือน วิทยุสื่อสารประเภทอื่นๆ ทำให้ได้ยินเสียงดังฟังชัด
  • สามารถใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือได้ผ่านแอปพลิเคชั่น zello
  • เป็นวิทยุที่ราคาไม่แพงใครก็สามารถซื้อมาใช้งานได้ ไม่ผิดกฎหมาย
  • สามารถใช้งานได้ทั่วโลก

ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นข้อดีของ วิทยุสื่อสาร zello ซึ่งถือว่าน่าสนใจมาก เพราะนอกจากจะสะดวกสบายใจการใช้งานแล้ว ก็ยังเป็นวิทยุสื่อสารที่สามารถติดต่อได้ไกลกว่าวิทยุทุกประเภท ขอเพียงแค่คุณมีอินเทอร์เน็ตเท่านั้น หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่สนใจเกี่ยวกับเรื่องของวิทยุสื่อสาร สามารถนำโทรศัพท์มือถือของคุณมาลองโหลดแอปพลิเคชั่น zello เพื่อลองศึกษาและใช้งานดูก่อนได้เลย

18 หน่วยงานที่สามารถใช้ วิทยุสื่อสารราชการ ความถี่ประเภท 1 ได้

18 หน่วยงานที่สามารถใช้ วิทยุสื่อสารราชการความถี่ประเภท 1 ได้

 

สำหรับหน่วยงานราชการนั้น ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถใช้ วิทยุสื่อสารราชการ ในย่านความถี่ที่ 1 ได้ แต่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีตำแหน่งหน้าที่ หรืออยู่ในหน่วยงานที่กำหนดไว้ จึงจะสามารถใช้งานวิทยุสื่อสารสีดำในย่านความถี่ที่ 1ได้นั่นเอง ซึ่งรับรองได้เลยว่าคุณจะไม่ได้เห็นในคนทั่วไป และไม่มีใช้ในชีวิตประจำวันแน่นอน วันนี้จึงมีอธิบายถึงหน่วยงานทั้ง 18 หน่วยงานที่มีสิทธิ์ใช้เครื่องวิทยุสื่อสารราชการความถี่ประเภท 1 ได้อย่างถูกต้อง ดังนี้

  • หน่วยงานสถาบันวิจัยจุฬาภรณ์
  • หน่วยงานกรมศุลกากร
  • หน่วยงานกรมสอบสวนคดีพิเศษ
  • หน่วยงานกองทัพบก
  • หน่วยงานกองทัพเรือ
  • หน่วยงานกองทัพอากาศ
  • หน่วยงานกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
  • หน่วยงานกระทรวงมหาดไทย เฉพาะบุคคลที่มีตำแหน่ง ดังต่อไปนี้ถึงจะสามารถใช้งาน เครื่องวิทยุสื่อสารราชการความถี่ประเภท 1 ได้
  1. ส่วนกลาง จะมีดังนี้ ปลัดกระทรวงมหาดไทยและรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ,ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง , เลขานุการปลัดกระทรวงมหาดไทยและเลขานุการรองปลัดกระทรวงมหาดไทย , อธิบดีกรมการปกครองรองอธิบดีกรมการปกครองและอธิการวิทยาลัยการปกครอง , เลขานุการอธิบดีกรมการปกครอง เลขานุการรองอธิบดีกรมการปกครอง และ เลขานุการอธิการวิทยาลัยการปกครอง , ผู้อำนวยการกอง ผู้อำนวยการสำนักในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และ กรมการปกครอง , หัวหน้าฝ่ายและหัวหน้างานในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย และกรมการปกครอง และ หัวหน้าสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรี
  2. ส่วนภูมิภาค จะมีดังนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและรองผู้ว่าราชการจังหวัด , หัวหน้าสำนักงานจังหวัดและเลขานุการผู้ว่าราชการจังหวัด , นายอำเภอ ปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอ ปลัดอำเภอ , ปลัดจังหวัดผู้ช่วยปลัดจังหวัด หัวหน้าฝ่ายปกครองจังหวัดและหัวหน้าฝ่ายกิจการพิเศษ และ ผู้ตรวจการส่วนท้องถิ่น และเสมียนตราจังหวัด ที่ทำการปกครองจังหวัด
  • สำนักพระราชวัง
  • สำนักราชเลขาธิการ
  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
  • สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
  • สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
  • สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
  • สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
  • สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
  • สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
  • สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ

ทั้งหมดนี้คือหน่วยงานทั้ง 18 หน่วยงานที่สามารถใช้งาน เครื่องวิทยุสื่อสารราชการความถี่ประเภท 1 ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาต นอกจากนี้แล้วทั้ง 18 หน่วยงานก็ยังมีการใช้ย่านความถี่เฉพาะอีกด้วยทำให้ประชาชนทั่วไปไม่สามารถเข้าถึงได้แน่นอน หากคุณใช้วิทยุทั่วไปที่ไม่ได้ผ่านการดัดแปลงอย่างผิดกฎหมาย

วิทยุสื่อสารราชการ และวิทยุสื่อสารทั่วไป ต่างกันอย่างไร?

วิทยุสื่อสารราชการ และวิทยุสื่อสารทั่วไป ต่างกันอย่างไร? 2

หลายคนอาจจะมีข้อสงสัยว่าทำไมวิทยุสื่อสาร บางเครื่องถึงเป็นสีดำ หรือวิทยุสื่อสารบางเครื่องถึงเป็นสีแดง นอกจากนี้ก็ยังมีสีเหลืองอีกประเภทหนึ่ง ซึ่งในประเทศไทยจะนิยมใช้กันเพียงแค่วิทยุสื่อสารที่เป็นสีดำ และวิทยุสื่อสารที่เป็นสีแดงเป็นส่วนใหญ่ โดยที่เครื่องวิทยุสื่อสาร ทั้ง 2 ประเภทนี้มีข้อแตกต่างที่ชัดเจนอย่างมาก คือ สีดำจะเป็น วิทยุสื่อสารราชการ และสีแดงจะใช้ในประชาชนทั่วไป ซึ่งวันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับเครื่องวิทยุสื่อสารทั้งสองรูปแบบนี้กันว่าต่างกันอย่างไร

1.วิทยุสื่อสารราชการ

  • วิทยุประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นเครื่องที่มีสีดำ
  • ย่านความถี่ในการใช้งานขึ้นอยู่กับแต่องค์กร โดยจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนย่านความถี่เองได้
  • ผู้ใช้งานจะแบ่งเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือ ผู้ที่ใช้วิทยุสื่อสารความถี่ประเภท 1 ส่วนใหญ่จะเป็นทหาร และตำรวจ หรือหน่วยต่างๆ ที่ได้รับอนุญาตจำนวน 18 หน่วยงาน , วิทยุสื่อสารความถี่ประเภท 2 ส่วนใหญ่จะเป็นกู้ภัย โรงเรียน นักข่าว ตำรวจ ทหาร หรือหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ใน 18 หน่วยงานที่ใช้ความถี่ประเภทที่ 1
  • วิทยุสื่อสารราชการ มีย่านความถี่ที่ 000-174.000 MHz

2.วิทยุสื่อสารสำหรับประชาชน

  • วิทยุประเภทนี้จะมีลักษณะเป็นเครื่องสีแดง และเหลือง
  • ไม่สามารถปรับแต่งย่านความถี่ได้ แต่จะมาพร้อมช่องความถี่ให้เปลี่ยนถึง 80 ช่องความถี่
  • ผู้ใช้งานเป็นประชาชนทั่วไป ใครก็สามารถหาซื้อมาใช้งานได้
  • วิทยุสื่อสารสำหรับประชาชนมีย่านความถี่ที่ 245 MHz ในเครื่องสีแดง และ 78 MHz ในเครื่องสีเหลือง

ข้อมูลเหล่านี้ น่าจะช่วยให้คุณเลือกได้แล้วว่าตัวคุณเหมาะกับวิทยุสีไหนมากกว่ากัน และข้อสำคัญเลยในการซื้อวิทยุคือถ้าหากคุณเป็นประชาชนทั่วไปไม่ได้รับอนุญาตห้ามซื้อ วิทยุสื่อสารราชการ อย่างเด็ดขาดและห้ามดัดแปลงวิทยุสื่อสารอีกด้วย

ใครบ้างที่สามารถใช้ วิทยุสื่อสารราชการ หรือวิทยุสื่อสารสีดำ

ใครบ้างที่สามารถใช้ วิทยุสื่อสารราชการ หรือวิทยุสื่อสารสีดำ

 

คุณอาจจะไม่รู้ว่าทุกวันนี้ วิทยุสื่อสารราชการ ที่เป็นสีดำ และมีย่านความถี่ตั้งแต่ 36.000-174.000 MHz นั้น จริง ๆ แล้วไม่ได้อนุญาตให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้กัน เพราะว่าเป็นคลื่นความถี่ที่สงวนไว้ใช้ในเฉพาะทางราชการ หรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นที่สามารถใช้งานได้ ดังนั้นจะพาคุณไปดูว่ามีอาชีพใดบ้าง? ที่สามารถใช้งานวิทยุสื่อสารแบบย่านดำได้

1.วิทยุสื่อสารประเภท 1

ผู้ที่ใช้งานวิทยุสื่อสารราชการ ได้นั้นส่วนใหญ่แล้วจะเป็น เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคง เช่น ตำรวจ กสทช. หรือทหาร หรือถ้าเป็นหน่วยงานก็ต้องเป็นหน่วยงานที่ได้รับอนุญาตหรือมีเหตุจำเป็นให้ใช้ ซึ่งทุกคนที่ใช้จำเป็นต้องมีบัตรข้าราชการ, บัตรพนักงาน และบัตรประจำเครื่องที่ใช้งานอยู่ ซึ่งสามารถขอได้จากหน่วยงานที่คุณสังกัดอยู่

2.วิทยุสื่อสารประเภท 2

ผู้พกพาวิทยุสื่อสารราชการ ประเภทที่ 2 นั้นส่วนใหญ่จะเป็น อาสา กู้ภัย องค์กรเพื่อการกุศล นักข่าว ตำรวจ ทหาร หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ โดยส่วนมากแล้วจะถูกใช้งานในกลุ่มกู้ภัยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งวิทยุสื่อสารประเภท 2 นั้นจะสามารถเปลี่ยนคลื่นความถี่เองได้ โดยการเปลี่ยนนั้นจะต้องถูกเปลี่ยนโดยโปรแกรมจากองค์กร หรือหน่วยงานของคุณเพื่อให้ใช้ได้เฉพาะคลื่นความถี่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น

นอกจากนี้ก็ยังมีเครื่องวิทยุสมัครเล่น ที่ไม่ใช่ วิทยุสื่อสารราชการ แต่ก็เป็นวิทยุย่านความถี่ดำ ถูกล็อกความถี่ไว้ใช้เฉพาะในกรณีกิจการวิทยุ หากคุณไม่ได้เป็นราชการและอยากศึกษาหรือสนใจเกี่ยวกับวิทยุสื่อสารสีดำละก็สามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบและอบรมเป็นนักวิทยุสมัครเล่นได้

นักวิทยุสมัครเล่น ที่ใช้วิทยุสื่อสารย่านดำ มีกฎอะไรที่ต้องปฏิบัติบ้าง

นักวิทยุสมัครเล่น ที่ใช้วิทยุสื่อสารย่านดำ มีกฎอะไรที่ต้องปฏิบัติบ้าง

 

การที่คุณจะสามารถใช้ วิทยุสื่อสารย่านดำ ได้นั้น คุณจำเป็นต้องมีอาชีพข้าราชการ, อาสาสมัครของมูลนิธิต่าง ๆ หรือ เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานเอกชนที่ กสทช.อนุญาตเท่านั้น ใครที่มีคุณสมบัติตามที่กำหนดไว้ สามารถใช้งานได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตแต่อย่างใด แต่ก็จำเป็นต้องพกบัตรประจำตัวที่ทางหน่วยงานออกให้ไว้ด้วย เพื่อใช้ในการยืนยันตน แต่หากคุณเป็นประชาชนทั่วไปที่ชื่นชอบการใช้งานวิทยุสื่อสาร และต้องการจะใช้งาน วิทยุสื่อสารย่านดำ ในย่านความถี่ 144.000-146.000 MHz. ก็สามารถไปสอบ และอบรมวิทยุสมัครเล่นขั้นต้น เพื่อเป็นนักวิทยุสมัครเล่น ได้โดยที่นักวิทยุสมัครเล่น ที่สอบผ่านแล้วต้องทำตามกฎดังนี้

วิทยุสื่อสารย่านดำ ที่พกพานั้นต้องเป็นเครื่องเฉพาะที่ใช้ในกิจการวิทยุสมัครเล่น เท่านั้น ไม่ควรเอาเครื่องวิทยุสื่อสารประเภท 2 มาดัดแปลง เพื่อให้สามารถใช้คลื่นสมัครเล่นได้ เพราะหากทำจะผิดกฎหมายฐาน” ทำ หรือดัดแปลงวิทยุสื่อสาร” ซึ่งโทษถือว่าหนักมาก ดังนั้นควรเช็กกับทางร้านให้ดี ก่อนจะตัดสินใจซื้อ เพราะว่าถ้าหากเรามีวิทยุสื่อสารที่ถูกดัดแปลงอยู่ จะมีโทษความผิด เพราะคุณถือเป็นผู้ครอบครองนั่นเอง

  • นักวิทยุสมัครเล่นทุกคนต้องพกบัตรอนุญาตพนักงานวิทยุสมัครเล่น หรือ ใบอนุญาตให้ใช้ ขณะพกพาวิทยุสื่อสารย่านดำ ตลอดเวลา
  • ห้ามเปิดแบนด์ อย่างเด็ดขาดและใช้วิทยุสื่อสารที่ใช้ ต้องใช้คลื่นความถี่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้นคือ 000-146.000 MHz.

ถ้าคุณสนใจอยากจะเป็นนักวิทยุสมัครเล่น หลังจากที่สอบเสร็จและได้รับอนุญาตอย่างถูกกฎหมายเป็นที่เรียบร้อย ก็สามารถหาซื้อวิทยุสื่อสารย่านดำ ในราคาตามท้องตลาดประมาณ 3,500-10,000 บาทเท่านั้น

ประชาชนทั่วไปห้ามใช้ วิทยุสื่อสารย่านดำ แล้วใช้วิทยุอะไรได้บ้าง

ประชาชนทั่วไปห้ามใช้ วิทยุสื่อสารย่านดำ แล้วใช้วิทยุอะไรได้บ้าง

 

สำหรับประชาชนทั่วไปนั้นเราไม่สามารถที่จะใช้งาน วิทยุสื่อสารย่านดำ ได้เพราะว่าได้มีกฎหมายกำหนดไว้อยู่แล้วแต่หากต้องการที่จะใช้ สามารถใช้งานวิทยุสื่อสารสีแดง หรือ วิทยุสื่อสารสีเหลืองแทนได้ โดยวิทยุทั้งสองนั้นเป็นวิทยุที่ถูกอนุญาตให้ใช้งานได้อย่างอิสระ สำหรับประชาชน ในคลื่นความถี่ภาคประชาชน หรือที่เรียกว่า CB (Citizens band) ซึ่งจะจำแนกออกเป็นดังนี้

1.วิทยุสื่อสารสีแดง

เป็นวิทยุสื่อสารที่มีความถี่ภาคประชาชน โดยตัวเครื่องจะมีสีแดงเป็นหลักอย่างชัดเจน โดยจะมีย่านความถี่ที่ใช้อยู่ที่ 245 ถือเป็นคลื่นความถี่ของวิทยุสื่อสารที่คนไทยใช้มากที่สุด มีช่องใช้สามารถใช้งานเพื่อติดต่อสื่อสารได้มากถึง 80 ช่องความถี่ ทำให้สามารถในระยะของคุณนั้นโอกาสน้อยมากที่จะใช้คลื่นวิทยุสื่อสารตรงกัน ทำให้เราไม่จำเป็นเลยที่จะต้องใช้งาน วิทยุสื่อสารย่านดำ ซึ่งผิดกฎหมายสำหรับประชาชนทั่วไป โดยที่วิทยุสื่อสารสีแดงนั้นสามารถใช้ได้ทั้งใน ประชาชนทั่วไป ภาคเอกชน หรือหน่วยงานรัฐ ได้

2.วิทยุสื่อสารสีเหลือง

เป็นวิทยุสื่อสาร ที่มีความถี่ภาคประชาชน หรือที่เรียกว่า CB โดยวิทยุสื่อสารสีเหลืองนั้นไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนักสำหรับคนไทย มักจะถูกใช้งานในกรณีที่ในย่านนั้นมีการใช้งานประสานงานในย่านความถี่ 245 MHz. หนาแน่น เพราะว่าวิทยุสื่อสารสีเหลืองนั้นมีความถี่อยู่ที่ 78 MHz. ทำให้ไม่โดนรบกวนจากวิทยุสื่อสารสีแดง และ วิทยุสื่อสารย่านดำ

สุดท้ายแล้วหากคุณจำเป็นต้องใช้งานวิทยุสื่อสารไม่ว่าจะใช้เพื่อพูดคุยกับเพื่อน ครอบครัว หรือจะประสานงานต่าง ๆ ให้ใช้เป็นวิทยุสื่อสารสีแดงและเหลืองเท่านั้น เพราะว่าคุณไม่จำเป็นต้องสอบใบอนุญาตเพื่อใช้งาน และอย่าลืมว่าห้ามใช้ วิทยุสื่อสารย่านดำ เด็ดขาด ถ้าไม่ได้มีใบอนุญาตและใช้ในเหตุจำเป็นจริงๆ

เรื่องน่ารู้! เกี่ยวกับการใช้งานวิทยุสื่อสารสมัครเล่น

เรื่องน่ารู้! เกี่ยวกับการใช้งานวิทยุสื่อสารสมัครเล่น

 

การกำเนิด วิทยุสื่อสารสมัครเล่น มีมาอย่างยาวนาน จุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 ที่ใช้ในการค้นคว้าส่วนพระองค์ของพลเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ที่ได้มีการนำมาใช้ภายในกองช่างวิทยุ ของไปรษณีย์โทรเลข ใช้สำหรับการทดลอง เพื่อส่งวิทยุแบบความถี่สูง และติดต่อกับสถานีวิทยุสมัครเล่น จากทั้งในและต่างประเทศ สู่ปัจจุบันที่กลายเป็นช่องทางการติดต่อและสื่อสาร ด้านการศึกษา การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม การส่งเสริมในด้านต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้คนทั่วไป ซึ่งถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ต้องการใช้งานวิทยุสมัครเล่น ขอแนะนำเรื่องน่ารู้ต่อไปนี้

  • การจัดตั้งและเป็นนักวิทยุสื่อสารสมัครเล่น ต้องผ่านการสอบขั้นต้น และการทำแบบฟอร์มหนังสือรับรองสถานะการเป็นสมาชิกสมาคมก่อนเท่านั้น
  • ผู้ที่ต้องการเป็นนักวิทยุสมัครเล่น จะต้องผ่านการตรวจสอบ และกำกับดูแลจาก กสทช เท่านั้น
  • การมีกิจการวิทยุสมัครเล่น จะต้องเป็นไปในแนวทางสร้างประโยชน์ แจ้งเตือนภัยฉุกเฉิน การพัฒนาความรู้ความสามารถ การฝึกฝน หรือการเพิ่มพูนทักษะต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อคนทั่วไป
  • การใช้ วิทยุสื่อสารสมัครเล่น สามารถก่อให้เกิดประโยชน์ด้านการสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ด้วยการจัดทำช่องเพื่อแพร่หลายไปสู่วงการวิทยุระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี
  • ผู้ที่จะสามารถเข้าเป็นนักวิทยุสมัครเล่นได้ จะต้องมีสัญชาติไทยและมีคุณสมบัติตรงตามกำหนดของ กสทช
  • ข้อห้ามสำคัญ คือ การใช้วิทยุสมัครเล่นที่ต้องไม่ติดต่อไปยังประเทศที่ไม่ได้รับอนุญาตเด็ดขาด
  • ห้ามการใช้รหัสลับใด ๆ เพื่อการติดต่อสื่อสารออกไปนอกประเทศ และต้องระมัดระวังรหัสที่อาจกลายเป็นรหัสต้องห้ามของคำย่อสากล
  • ห้ามใช้เป็นไปในแนวทางของธุรกิจหรือการค้าใด ๆ เด็ดขาด
  • ไม่อนุญาตให้ใช้วิทยุสื่อสารแบบสมัครเล่น ในด้านการส่งข่าวสารไปสู่บุคคลที่ 3

ข้อกำหนดและข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน วิทยุสื่อสารสมัครเล่น ยังมีอีกหลายรูปแบบ เช่น การห้ามใช้ถ้อยคำหยาบคาย, ห้ามปล่อยข่าวลือที่ไม่เป็นจริง, ห้ามมีรายการโฆษณาและบันเทิงใด ๆ, ต้องไม่จงใจที่จะปล่อยคลื่นไปรบกวนสถานีอื่น เป็นต้น ซึ่งเรื่องเหล่านี้ผู้ที่เป็นนักวิทยุสมัครเล่นจะต้องรู้ไว้!

ทำความรู้จักวิทยุสื่อสารสมัครเล่น รวมกลุ่มคนสนใจในด้านเดียวกัน มาไว้ในคลื่นเดียว

ทำความรู้จักวิทยุสื่อสารสมัครเล่น รวมกลุ่มคนสนใจในด้านเดียวกัน มาไว้ในคลื่นเดียว

 

การเรียนรู้ของคนในสังคม มีความหลากหลายสูง พร้อมการมีความสนใจในเรื่องราวต่าง ๆ ที่อาจจะตรงกัน จนกลายเป็นกลุ่มใหญ่ขึ้น จุดนี้เองจึงมีการจัด วิทยุสื่อสารสมัครเล่น เพื่อการพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น และการสร้างโลกแห่งการศึกษาร่วมกัน แล้วจักมาเป็นคลื่นความถี่ที่สามารถเข้ารับฟังเรื่องที่สนใจเป็นพิเศษได้ตลอด ซึ่งรายละเอียดสำคัญของการใช้งานวิทยุสื่อสารในประเภทนี้ คือ

  • การใช้ วิทยุสื่อสารสมัครเล่น หรือ Amateur Radio (AR) จะเป็นการนำคลื่นความถี่วิทยุ ที่ให้บริการแบบกิจการสากล และมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาชนทั่วไป
  • นิยมใช้สำหรับการศึกษา การส่งเสริมด้านวัฒนธรรม จิตอาสา การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือการพูดคุยเพื่อ วัฒนธรรมระหว่างท้องถิ่น แล้วนำไปสู่แนวทางการพัฒนาต่อไป
  • วิทยุสื่อสารประเภทนี้ จะไม่ถูกใช้ในงานเพื่อธุรกิจการค้า
  • การเริ่มต้นใช้ครั้งแรก เป็นการใช้เพื่อสื่อสารแบบคลื่นสั้น ภายในกองช่างวิทยุของไปรษณีย์โทรเลข
  • เหมาะสำหรับผู้ที่มีความสนใจ ด้านการติดต่อสื่อสารและการรวมกลุ่มของผู้ที่มีความสนใจ ด้านการศึกษา การช่วยเหลือทางสังคม หรือการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นใด ๆ ในแบบเดียวกัน
  • ในอดีตถ้าเป็นการติดต่อคลื่นสัญญาณแบบระยะทางไกล จะนิยมใช้การสื่อสารจากรหัสมอร์ส
  • การจะขึ้นเป็นนักวิทยุสื่อสารสมัครเล่น ต้องผ่านการตรวจสอบจากหน่วยงานที่ดูแล และกำกับด้านกิจการวิทยุสมัครเล่นโดยเฉพาะ หรือการผ่านทดสอบจาก กสทช.มาก่อน

การใช้ วิทยุสื่อสารสมัครเล่น จะสร้างประโยชน์ต่อตัวคุณและสังคม แต่จะมีเรื่องของกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง ดังนั้นจึงต้องมีการดำเนินงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และมีการทำแบบฟอร์ม เพื่อรับรองสถานะสมาชิกวิทยุสมัครเล่นเพิ่มเติม  แต่ถ้าคุณเป็นเพียงแค่ผู้ฟัง สามารถรับฟังได้ฟรี โดยไม่จำเป็นต้องผ่านการตรวจสอบหรือเสียค่าสมาชิกแต่อย่างใด

แนะนำการเลือกซื้อวิทยุสื่อสารราคาถูก สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยซื้อใช้มาก่อน

แนะนำการเลือกซื้อวิทยุสื่อสารราคาถูก สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยซื้อใช้มาก่อน

การใช้งาน วิทยุสื่อสารราคาถูก จะเป็นตัวช่วยให้การสั่งงาน หรือการพูดคุยกันในพื้นที่ใกล้เคียง มีความสะดวกมากขึ้น โดยจะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันปลาย ๆ ที่มีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไป รวมถึงปัจจัยเรื่องวัสดุที่ถูกใช้ในการผลิตวิทยุที่จะต่างตามราคาด้วยเช่นกัน ดังนั้นถ้าคุณสนใจจะซื้อวิทยุสื่อสารเพื่อใช้ให้ตอบโจทย์ ในราคาไม่แรงมาก ขอแนะนำวิธีการเลือกซื้อให้เหมาะสมต่อความต้องการ และราคาตรงงบ ดังนี้

  • รู้ก่อนว่า วิทยุสื่อสารราคาถูก จะนิยมใช้ในงานทั่วไป งานภาคประชาชน รับส่งสัญญาณได้ไม่ไกลมาก และมีคลื่นความถี่ที่ถูกกำหนดให้ใช้ในช่องวิทยุชุมชนเท่านั้น
  • เลือกเครื่องวิทยุให้ตรงกับโจทย์การใช้งาน เช่น การเดินทาง พกพา ต้องใช้เครื่องน้ำหนักเบา หรือ การใช้งานในโกดังเก็บสินค้า คลื่นสัญญาณต้องแรงขึ้นมาอีกนิดและแข็งแรงทนทาน เป็นต้น
  • เลือกตามฟังก์ชั่นการใช้งาน บางเครื่องอาจมีการส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือได้ หรือสามารถปรับเสาสัญญาณ เพื่อรับคลื่นที่แรงขึ้นได้ เป็นต้น
  • เลือกซื้อวิทยุสื่อสารราคาถูก จากร้านที่ไว้วางใจได้ แนะนำดี ให้ความรู้ครบครันทุกด้าน เพื่อการใช้งานที่ถูกต้องและเหมาะสม ที่สำคัญคือต้องมีใบรับประกันสินค้า

การใช้งาน วิทยุสื่อสารราคาถูก ในรูปแบบภาคประชาชน ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตจากทาง กสทช. แต่อย่างใด เพราะคลื่นที่รับจะเป็นเพียงคลื่นทั่วไป ไม่สามารถรับคลื่นทางราชการได้อยู่แล้ว จึงถือเป็นหนึ่งในรูปแบบวิทยุสื่อสารที่หาซื้อได้ง่าย เพียงเลือกร้านที่ขายสินค้าได้มาตรฐาน ให้คำแนะนำตรงไปตรงมา เท่านี้การซื้อไปใช้งานจะเต็มประสิทธิภาพมากขึ้น

วิทยุสื่อสารราคาถูก ใช้งานได้ดี มีอยู่จริง! เพียงเลือกให้เหมาะสมต่อการใช้จริง

วิทยุสื่อสารราคาถูก ใช้งานได้ดี มีอยู่จริง! เพียงเลือกให้เหมาะสมต่อการใช้จริง

วิทยุสื่อสารราคาถูก มีขายอยู่ภายในโลกออนไลน์จำนวนมาก พร้อมให้การใช้งานที่ดีไม่แพ้กับเครื่องที่มีราคาสูง เพียงแต่ผู้ใช้อาจจะต้องเลือกให้เหมาะสมต่อการใช้งานส่วนตัว ที่สำคัญคือการดูรายละเอียดต่าง ๆ ของวิทยุสื่อสารที่คุณต้องการใช้ให้ดี เมื่อซื้อมาแล้ว รับรองว่าจะช่วยเพิ่มประโยชน์ให้กับคุณอย่างแน่นอน

การซื้อวิทยุสื่อสารราคาถูก คุณจำเป็นจะต้องเลือกจากการใช้งานส่วนตัวไปหลัก เพื่อทำให้คุณสามารถนำมาเลือกเครื่องที่มีคลื่นความถี่ และมีรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวเครื่อง ที่เหมาะสมต่อความต้องการมากที่สุด โดยจะมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่นบาท แต่แนะนำให้ซื้อในช่วงราคาหลัก 1,000 บาทขึ้นไป เพราะจะการันตีเครื่องที่มีคุณภาพ ให้การสื่อสารที่มีความคมชัด และมีการระบุรายละเอียดการใช้งานวิทยุสื่อสารราคาถูกอย่างถูกต้อง มีใบอนุญาตให้ใช้และพกพาได้ โดยจะติดมากับตัวเครื่อง เป็นการอนุญาตจากทาง กสทช. ซึ่งเครื่องวิทยุสื่อสารลักษณะนี้ จะเป็นกลุ่มคลื่นวิทยุสำหรับประชาชนทั่วไป มีขนาดเล็ก พกพาได้สะดวก ใช้คลื่นความถี่เดียวกัน และจะใช้คลื่นเริ่มต้นที่ 245 MHz

ถ้าคุณต้องการเลือกซื้อวิทยุสื่อสารราคาถูก แนะนำร้านที่มีหลายแบรนด์ของวิทยุสื่อสาร นำเสนอให้คุณได้เลือกซื้ออย่างเหมาะสม โดยให้เริ่มต้นที่ 0.5 วัตต์ จะทำให้การรับส่งสัญญาณมีความคมชัดมากขึ้น โดยทางร้านค้าจะต้องระบุรายละเอียดของแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อไว้ชัดเจน มีความเป็นจริง และราคาที่เหมาะสม พร้อมการมีใบรับรองการใช้งาน และมีการระบุวิธีใช้เพื่อรับส่งสัญญาณให้ครบ เช่น ใช้ได้ไม่เกิน 500 เมตร ถึง 1 กิโลเมตร หรือใช้ไม่เกิน 1-3 กิโลเมตร บนที่โล่ง เป็นต้น พร้อมการให้อุปกรณ์ภายในชุด ที่จะต้องมีทั้งเครื่องวิทยุสื่อสาร, สายชาร์จ, แบตเตอ รี่และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่น ๆ รวมไปถึงคู่มือการใช้งานแบบครบถ้วน