การใช้งาน วิทยุสื่อสารถูกกฎหมาย ของบุคคลทั่วไป มีลักษณะเป็นอย่างไร?

การใช้งาน วิทยุสื่อสารถูกกฎหมาย ของบุคคลทั่วไป มีลักษณะเป็นอย่างไร?

วิทยุสื่อสารถูกกฎหมาย ถูกออกเป็น พ.ร.บ.อย่างชัดเจน เพื่อให้เกิดการใช้งานที่เหมาะสมกับแต่ละหน่วยงาน โดยเฉพาะในกลุ่มหน่วยงานราชการและความมั่นคงของประเทศ จะมีคลื่นความถี่วิทยุเป็นของตัวเอง และบุคคลทั่วไปจะไม่สามารถเข้าถึงคลื่นความถี่นี้ได้ ดังนั้นจึงเกิดเป็นวิทยุสื่อสารที่ถูกใช้งานของกลุ่มบุคคล โดยจะใช้ประโยชน์ภายในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี ทั้งยังเป็นกลุ่มวิทยุสื่อสารที่ได้รับความนิยม ภายในกลุ่มธุรกิจรักษาความปลอดภัย, โรงงานอุตสาหกรรม, ธุรกิจต่าง ๆ ที่จะต้องมีการพูดคุยระหว่างกลุ่มพนักงานเพื่อสั่งงาน รวมไปถึงกลุ่มอาสาสมัครอีกด้วย

วิทยุสื่อสารถูกกฎหมาย ของบุคคลทั่วไปจะต้องเป็น เครื่องที่มีความถี่ 245 MHz เท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะได้รับความนิยมใช้ในย่านความถี่ VHF ช่วงสูง การใช้งานจะเน้นไปทางความถี่ UHF หรือคลื่นที่มีความยาวแบบคลื่นน้อย จึงกระจายออกเป็นแนวเส้นตรง เมื่อพบกับสิ่งกีดขวางใด ๆ จึงอาจเกิดเป็นการสะท้อนกลับ ลักษณะจะเป็นสายหรือเสาอากาศที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก และพื้นที่การรับสัญญาณจะไปได้ไกลที่สุดประมาณ 3 กิโลเมตรบนพื้นที่โล่ง แต่ถ้ามีสิ่งกีดขวาง หรืออยู่ภายในอาคาร อาจจะใช้ได้ในระยะเพียง 2 กิโลเมตร

แต่ถ้าเมื่อใดที่สามารถรับสัญญาณได้ชัดเจน จะพูดคุยหรือสั่งงานต่าง ๆ ได้คมชัดมาก พร้อมการมีคุณสมบัติเด่นที่รับฟังช่องความถี่ได้สูงสุดถึง 80 ช่อง และแบ่งปันใช้ช่องความถี่นี้ได้ฟรี แต่จะเป็นการใช้ตามหลักของกิจการวิทยุคลื่นความถี่ประชาชนเท่านั้น การใช้งานวิทยุสื่อสารถูกกฎหมาย จึงเน้นเป็นการใช้สำหรับประชาชนทั่วไป และจุดเด่นสำคัญของวิทยุสื่อสารถูกกฎหมาย แบบบุคคล คือ การมีสายอากาศขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก ถ้าอยู่ในระยะใกล้จะรับสัญญาณได้ชัดเจนมาก และไม่ต้องขอใบอนุญาตใด ๆ ซื้อใช้แล้ว พร้อมเริ่มงานได้ทันที!

ทำความรู้จัก วิทยุสื่อสารถูกกฎหมาย เพื่อการใช้งานอย่างมั่นใจ

ทำความรู้จัก วิทยุสื่อสารถูกกฎหมาย เพื่อการใช้งานอย่างมั่นใจ

การใช้งานวิทยุสื่อสารของบุคคลทั่วไป มีทั้งรูปแบบการใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกในการเดินทางแบบหมู่คณะ, การใช้งานทั่วไปจากบุคคลธรรมดา และการใช้งานเชิงพาณิชย์ แต่ด้วยคลื่นความถี่ของวิทยุสื่อสารอาจกลายเป็นดาบ 2 คม โดยเฉพาะการจูนติดคลื่นวิทยุของทางราชการ จึงทำให้มีการออก พ.ร.บ เพื่อขอนุญาตใช้งาน วิทยุสื่อสารถูกกฎหมาย ซึ่งจะมีเนื้อหาหลักที่น่าสนใจ คือ

  • หน่วยงานที่สามารถใช้ วิทยุสื่อสารถูกกฎหมาย แบบสังเคราะห์คลื่นความถี่ประเภทที่ 1 โดยจะมีลักษณะที่ผู้ใช้งานสามารถตั้งจากความถี่ได้เอง จากภายนอกของเครื่อง จะเป็นเพียงแค่หน่วยงานถวายความปลอดภัย, การอารักขาบุคคลสำคัญ, การใช้งานของหน่วยปราบปรามและป้องกันผู้กระทำผิด ที่ส่งผลกระทบต่อความสงบของประเทศ รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ด้านรักษาความมั่นคงของประเทศเท่านั้น
  • การใช้สิทธิ์เครื่องวิทยุแบบสังเคราะห์ความถี่ในประเภทที่ 2 จะเป็นหน่วยงานราชการที่ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ และหน่วยงานด้านรัฐวิสาหกิจทั้งหมด
  • ผู้ที่ประกอบการเป็นอาสาสมัครกู้ภัย กลุ่ม อปพร หรืออาสาสมัครทุกประเภท ทุกหมู่เหล่า จะอนุญาตให้ใช้เป็น วิทยุสื่อสารถูกกฎหมาย สังเคราะห์ความถี่ประเภท 2 เท่านั้น! แต่จะต้องเป็นชนิดที่ตั้งความถี่จากเครื่องคอมพิวเตอร์
  • กลุ่มวิทยุสื่อสารทั่วไป ที่มีกำลังการส่งคลื่นวิทยุไม่เกินไปกว่า 0.5 วัตต์ หรือ 245 MHz ใช้รับส่งด้วยระยะทางประมาณ 1-3 กิโลเมตร ภายในพื้นที่โล่ง ส่วนพื้นที่อับสัญญาณจะใช้ได้ในระยะทาง 1-2 กิโลเมตร ถูกใช้จากบุคคลทั่วไปเพื่อการติดต่อสื่อสาร รับฟังได้ทั้งหมดที่ 80 ช่องความถี่ โดยจะเป็นรูปแบบวิทยุความถี่ประชาชนเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตแต่อย่างใด

กลุ่มสุดท้ายที่เป็น วิทยุสื่อสารถูกกฎหมาย ทั่วไปแบบบุคคล และใช้คลื่นความถี่ประชาชนในขนาด 245 MHz จะได้รับความนิยมใช้งานจากกลุ่มผู้เดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด, กลุ่มเดินป่า, การใช้ประสานงานต่าง ๆ ภายในครอบครัว และกลุ่มธุรกิจ, โรงงาน และอาสาสมัคร จะเป็นในรูปแบบนี้ทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะใช้เพื่อความคล่องตัวในการทำงาน และสื่อสารของกลุ่มคนเป็นหลัก

ทำความรู้จักอุปกรณ์วิทยุสื่อสารระบบดิจิทัล มีข้อดีอะไรบ้าง?

ทำความรู้จักอุปกรณ์วิทยุสื่อสารระบบดิจิทัล มีข้อดีอะไรบ้าง?

อุปกรณ์วิทยุสื่อสาร เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่ช่วยให้การสื่อสารสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องเสียค่าโทรศัพท์เป็นจำนวนมาก ไม่จำเป็นต้องใช้อินเทอร์เนต แม้จะเป็นพื้นที่อับสัญญาณมือถือ ก็สามารถใช้อุปกรณ์นี้ในการติดต่อได้ ซึ่งในปัจจุบันมีการพัฒนาวิทยุสื่อสารให้มีความทันสมัยมากกว่าเดิม ดังนั้นเราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับวิทยุระบบดิจิทัล เครื่องมือรับส่งสัญญาณที่น่าสนใจ และกำลังได้รับความนิยมในภาคอุตสาหกรรม และการใช้งานในประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก

วิทยุสื่อสารระบบดิจิทัลเป็นอย่างไร?

วิทยุสื่อสารระบบดิจิทัล(DTRS) หรือเรียกชื่อเต็ม ๆ ว่า วิทยุคมนาคมเฉพาะกิจระบบดิจิทัล ซึ่งมีคุณสมบัติที่โดดเด่นดังนี้

1.เป็นระบบ Nationwide Digital Trunked Radio ซึ่งให้การกระจายสัญญาณครอบคลุมในระยะไกล มากกว่าแบบอนาล็อก

2.มีจุดเด่นคือ “แม่ข่าย” ทำหน้าที่ให้บริการเฉพาะกลุ่ม ช่วยให้ข้อมูลการติดต่อรับส่งสัญญาณข่าวสารต่าง ๆ เป็นส่วนตัวมากกว่าเดิมหลายเท่า จึงเหมาะกับการใช้งานแบบเฉพาะกลุ่ม เพราะเก็บความลับได้ดี

3.ระบบการทำงานของคลื่นดิจิทัลจะใช้การแปลงคลื่นสียงเป็นเลขฐานสอง แล้วทำการเข้ารหัส ส่งออกไปยังภาครับ เพื่อถอดรหัสกลับออกมาเป็นสัญญาณเสียงตามเดิม

4.ใช้งานได้ทั่วไป ทั้งในสภาวะปกติและกรณีที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินต่าง ๆ ขึ้น ระบบการเชื่อมต่อทนทาน คลื่นชัดเจน แทบจะไม่มีคลื่นแทรกที่มักได้ยินเป็นเสียงซ่า เพราะใช้ระบบการเข้ารหัสผ่านดาวเทียม

5.ตัวเครื่องรุ่นที่แพงขึ้นมาสักหน่อย จะมีระบบ GPS สามารถใช้ติดตามตำแหน่ง ระบุที่อยู่ สามารถมองเห็นความเร็วการเคลื่อนที่ของเครื่องได้แบบทันที ซึ่งจะนำมาประยุกต์ใช้ในการควบคุม และใช้แจ้งเตือนต่าง ๆ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่จำเป็นต้องดูแลเรื่องความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงอันตรายสูง เพราะจะได้ทราบการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา

ข้อดีอุปกรณ์วิทยุสื่อสารแบบดิจิทัลที่ควรรู้

แม้ว่าการใช้งานของ อุปกรณ์วิทยุสื่อสาร ชนิดนี้จะเริ่มได้รับความนิยมสูง แต่กระนั้นการใช้งานระบบอนาล็อกก็ยังคงเป็นที่ยอมรับได้เช่นกัน นั่นก็เพราะว่าระบบดิจิทัลมีทั้งข้อดีอะไรบ้าง เป็นข้อมูลที่คุณควรรู้ก่อนตัดสินใจเลือกใช้งานไม่ให้พลาดในการติดต่อสื่อสาร

1.ระบบการใช้งานแบบดิจิทัล มีความรวดเร็วสูงมากกว่าแบบอนาล็อก ระบบการส่งสัญญาณเสถียร แม้จะใช้งานในช่วงที่มีเหตุน้ำท่วม, ไฟดับ หรือภัยพิบัติอื่น ๆ แม้โครงข่ายอื่นเกิดล่มขึ้นมา แต่ระบบดิจิทัลยังจะสามารถใช้งานได้ตามปกติ สื่อสารถึงกันได้อย่างชัดเจน

2.สามารถสร้างความเป็นส่วนตัวในการใช้งานได้ ด้วยการตั้งระบบสื่อสารเฉพาะกลุ่มไม่จำกัดจำนวนคน แฮกระบบได้ยาก ลดความเสี่ยงที่ความลับจะรั่วไหล

3.เครือข่ายการใช้งาน กระจายทั่วประเทศไทย การรับส่งสัญญาณมากที่สุด ติดต่อกันได้โดยม่จำกัดพื้นที่

4.เซ็ตระบบารทำงานส่งข้อมูลแบบแยกกลุ่มได้ ควบคุมให้การรวมหรือแยกกลุ่มสนทนาออกจากกันได้อย่างชัดเจน และยังใช้สำหรับการบันทึกเสียงสนทนาได้ โดยวิทยุแบบอนาล็อกจะไม่มีระบบนี้

จะเห็นได้ว่าข้อมูลทั้งหมดสำหรับการใช้งาน อุปกรณ์วิทยุสื่อสาร ระบบดิจิทัล มีฟังก์ชั่นที่โดดเด่น ช่วยตัดข้อจำกัดของระบบอนาล็อกออกไปได้ จึงเหมาะสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะกรณีมีเหตุฉุกเฉิน ต้องติดต่อกันด้วยความรวดเร็ว ถือว่าระบบนี้ตอบโจทย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การทำงานของอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร และหลักการส่งสัญญาณ

การทำงานของอุปกรณ์วิทยุสื่อสาร และหลักการส่งสัญญาณ

อุปกรณ์วิทยุสื่อสาร เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับการติดต่อกับผู้อื่นภายในพื้นที่ ๆ ไม่ไกลกันมากนัก เช่น ภายในอาคารสำนักงาน, ออฟฟิศ, พื้นที่กลางแจ้ง หรือการใช้ติดต่อกับสมาชิกในกรณีที่มีคนจำนวนมากอยู่ในพื้นที่ จนทำให้การเดินตามหากันลำบาก อุปกรณ์นี้จะช่วยให้การเข้าถึงกันได้ง่าย จัดการงานและสื่อสารกันได้รวดเร็วทันใจ กระชับสั้นได้ใจความ และพกพาง่าย

ระบบเครื่องมีการติดต่อโดยไม่ต้องเสียค่าโทรศัพท์ ไม่ต้องใช้สัญญาณอินเตอร์เนตที่อาจล่าช้า ใช้ได้แม้กระทั่งในพื้นที่อับสัญญาณมือถือ ดังนั้นเพื่อความเข้าใจในระบบการใช้งานให้มากขึ้น ควรรู้จักหลักการส่งสัญญาณของตัวเครื่องทั้งผู้รับและผู้ส่ง จะได้รู้วิธีใช้ให้ได้ประโยชน์และราบรื่นมากที่สุด

ระบบการทำงานโดยรวมของ อุปกรณ์วิทยุสื่อสาร

1.การทำงานระหว่างภาครับและภาคส่ง เป็นอุปกรณ์ที่ใช้การส่งสัญญาณผ่านกระแสไฟฟ้าคลื่นแม่เหล็ก ตัวเครื่องจะมีสายอากาศ ซึ่งใช้แผ่กระจายคลื่นวิทยุ เรียกได้ว่าเป็นการสื่อสาร “กึ่งสองทาง”

2.เมื่อมีการเปิดใช้งาน ระบบจะทำการแปลงกระแสไฟฟ้าให้กลายเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า สัญญาณจะถูกส่งผ่านสายอากาศไปยังเครื่องรับ

3.แหล่งพลังงานหลักมาจากแบตเตอรี่ และแบบไฟฟ้ากระแสตรง ซึ่งจะไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ทั้งสองประเภทมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน

ส่วนประกอบและการทำงาน

ส่วนประกอบหลักแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน นั่นก็คือ

1.ตัวเครื่องวิทยุ

เป็นตัวหลักที่ใช้สำหรับการสื่อสาร ภายในบรรจุแผงวงจรและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เพื่อใช้สำหรับการติดต่อ ซึ่งมีแผงวงจรการทำงานด้านใน โดยจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ยี่ห้อและรุ่น

2.แหล่งกำเนิดพลังงาน

ตามที่กล่าวไปข้างต้น แหล่งพลังงานที่นิยมใช้คือแบตเตอรี่แบบแพ็คติดอยู่กับเครื่อง สามารถพกพาได้สะดวก เมื่อแบตฯ หมด สามารถถอดออกมาชาร์จไฟได้ ส่วนอีกแบบคือ DC Volts หรือการต่อกระแสไฟฟ้าตรง ตัวเครื่องจะวางอยู่กับที่ มีภาคจ่ายไฟเป็นตัวสำคัญในการทำงาน เคลื่อนย้ายไม่ได้ มีข้อดีคือไม่ต้องกลัวแบตฯ หมด ไม่ต้องชาร์จ เพราะตัวเครื่องถูกจ่ายไฟจากแหล่งพลังงานอยู่ตลอดเวลา

3.สายหรือเสาอากาศวิทยุ

ส่วนประกอบที่เชื่อว่าคนใช้งานต้องรู้จัก และเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะทำหน้าที่ในการรับสัญญาณวิทยุ ซึ่งถูกส่งมาด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า แล้วแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าเข้าตัวเครื่องอีก กรณีนี้จะเรียกว่าภาครับ และถ้าเป็นภาคส่งจะใช้สายอากาศเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นคลื่นวิทยุ ให้แพร่กระจายสัญญาณไปยังเครื่องปลายทาง

เตรียมตัวเป็นนักเล่นวิทยุสมัครเล่น เลือกอุปกรณ์วิทยุสื่อสารแบบไหนดี?

เตรียมตัวเป็นนักเล่นวิทยุสมัครเล่น เลือกอุปกรณ์วิทยุสื่อสารแบบไหนดี?

 

มือใหม่ที่กำลังให้ความสนใจอยากใช้ อุปกรณ์วิทยุสื่อสาร ในการใช้งานต่าง ๆ หรืออยากลองฝึกเป็นนักเล่นวิทยุสมัครเล่น ซึ่งถือว่าเป็นงานอดิเรกอย่างหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นกิจกรรมที่น่าศึกษา ซึ่งต้องฝึกทักษาเชิงเทคนิค และการใช้รหัสติดต่อสื่อสาร

นอกจากการทำเรื่องขอใบอนุญาตและการสอบแล้ว สิ่งที่ต้องศึกษาเพิ่มก็คือ การเลือกซื้ออุปกรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน ดังนั้นใครที่ยังไม่รู้ว่าจะต้องซื้อรุ่นไหนแบบไหน ลองมาดูข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวช่วยประกอบการพิจารณาเบื้องต้นกันก่อน จะได้ไม่เลือกซื้อยี่ห้อที่มีประสิทธิภาพดี ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนาน

หลักการพิจารณาเลือกซื้ออุปกรณ์วิทยุสื่อสาร

การเลือกซื้ออุปกรณ์ชนิดนี้สำหรับบุคคลทั่วไป ซึ่งรวมไปถึงมือสมัครเล่นด้วยนั้น จะต้องประกอบไปด้วยรายละเอียดเหล่านี้ คือ

1.งบประมาณที่มีอยู่ในมือเป็นอันดับแรกที่ต้องพิจารณา จะได้ไม่เกิดปัญหาเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่าย เป็นการควบคุมไม่ให้เกิดปัญหาด้านค่าใช้จ่ายตามมา

2.เปรียบเทียบข้อดี และข้อเสียของวิทยุแต่ละยี่ห้อ โดยเลือกดูว่าเครื่องไหนมีฟังก์ชั่นที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคุ้มค่ามากกว่าสำหรับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง จะได้ไม่พลาดเสียน้อยเสียยากตามมา

3.ต้องเข้าใจด้วยว่าราคาของอุปกรณ์วิทยุส่อสารที่มีราคาแพง ยี่ห้อยอดนิยม เชื่อถือได้ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นเครื่องที่มีความทนทาน ใช้งานได้คุ้มว่า แต่กระนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะสมกับมือสมัครเล่นที่เพิ่งเริ่มต้น

4.อย่างไรก็ตามแม้ราคาเครื่องที่มีราคาแพงจะมีคุณภาพมากกว่าก็ตาม แต่สิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจเอาไว้อย่างหนึ่งก็คือ ไม่มีผลต่อกำลังส่งขงเครื่อง ราคาถูกหรือแพงก็ไม่ได้มีผลต่อการรับส่งสัญญาณให้ไกลมากไปกว่าเดิม

5.การเลือกซื้อตามพื้นฐานทั่วไป หากเป็นเครื่องขนาด 5 วัตต์ สัญญาณจะรับส่งกันได้ที่ 2-10 กิโลเมตร และขึ้นอยู่กับพื้นที่ด้วยว่ามีอะไรมาบดบังสัญญาณ หรือมีคลื่นรบกวนหรือไม่

6.ควรเลือกซื้อยี่ห้อที่มั่นใจได้ว่าเป็นของแท้ ไม่มีการดัดแปลง ใช้งานได้ถูกต้องตามกฎหมาย มีการระบุหมายเลขของ กสทช. ทุกตัว จะได้สามารถขอใบอนุญาตได้แบบผ่านฉลุย

7.ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าในการนำไปใช้เป็นอุปกรณ์สื่อสารแบบสมัครเล่นนั้น ต้องการใช้งานด้านอื่น ๆ ร่วมด้วยหรือไม่ แช่น การใช้ในสำนักงาน การติดต่อสื่อสารกับกลุ่มเพื่อน หรือการใช้งานภาคสนาม สั่งงานลูกน้อง หรือรักษาความปลอดภัย เป็นตัวช่วยให้ตัดสินใจได้ถูก เพราะบางงานจะต้องมีความสมบุกสมบัน ตากแดดและฝน ดังนั้นอุปกรณ์ก็ต้องทนทาน ใช้งานได้ดีในทุกสภาพอากาศด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นพื้นฐานเบื้องต้นสำหรับการเลือกซื้อ อุปกรณ์วิทยุสื่อสาร สำหรับมือสมัครเล่น อย่างไรก็ตามควรศึกษาข้อมูลอื่น ๆ ที่มีรายละเอียดเจาะลึกลงไปเพิ่มขึ้นด้วย จะได้ช่วยเพิ่มความรู้ความเข้าใจ เลือกเครื่องที่ใช้งานได้สะดวกสบาย ใช้งานง่าย โดยเฉพาะกับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น

อุปกรณ์วิทยุสื่อสารที่เรียกว่า CB คืออะไร ชวนทำความรู้จักก่อนซื้อ?

อุปกรณ์วิทยุสื่อสารที่เรียกว่า CB คืออะไร ชวนทำความรู้จักก่อนซื้อ?

เครื่องข่ายอุปกรณ์วิทยุสื่อสารมีหลากหลายคลื่นความถี่ ซึ่งแบ่งการใช้งานที่อนุญาตสำหรับประชาชนทั่วไปและสำหรับใช้ในราชการ ช่วงความถี่จึงแตกต่างกัน และหนึ่งในการใช้งานที่ได้รับความนิยมคือวิทยุสื่อสารที่เรียกว่า CB เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่บุคคลทั่วไปสามารถใช้ได้ ใครที่เป็นมือใหม่ ควรทำความรู้ก่อนตัดสินใจซื้อมาใช้งาน เพื่อป้องกันความผิดพลาด

อุปกรณ์วิทยุสื่อสาร CB คืออะไร?

CB คือตัวย่อของวิทยุสื่อสารที่ใช้งานสำหรับประชาชนทั่วไป มีชื่อเรียกเต็ม ๆ ว่า CITIZEN BAND ซึ่งคลื่นความถี่ที่สามารถใช้งานได้ทั่วไป โดยมีคุณลักษณะดังนี้

  1. ใช้เพื่องานธุรกิจได้ทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงประชาชนทั่วไป
  2. คลื่นความถี่ที่ใช้คือ 245MHz มีประสิทธิภาพในการกระจายคลื่นได้ไกล จึงได้รับความนิยมในการใช้งานอย่างแพร่หลาย
  3. การรับและส่งสัญญาณทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ชัดเจน และสามารถทะลุผ่านกำแพง กระจก อาคารบ้าน ชั้นใต้ดิน หรือลิฟท์ได้
  4. ใช้การปรับกำลังส่งได้ 2-3 ระดับ ยิ่งติดตั้งเสาอากาศจากพื้นดินสูง ยิ่งช่วยให้การส่งสัญญาณได้ไกลขึ้นไปอีก ซึ่งปกติจะอนุญาตให้สามารถตั้งเสาอากาศได้สูงถึง 60 เมตร คลื่นความถี่ส่งไกลได้หลายสิบกิโล
  5. อุปกรณ์วิทยุสื่อสาร CB 245 MHz. เป็นเครื่องที่ใช้งานได้ดี ออกแบบมาเพื่อเน้นการส่งสัญญาณได้ไกล ชัดเจน และที่สำคัญคือถูกต้องตามกฎหมาย
  6. ด้วยประสิทธิภาพของตัวเครื่อง กับราคา ถือว่าคุ้มค่า ราคาย่อมเยาว์ สามารถใช้งานได้ในกลุ่มบุคคลทั่วไป โดยมีช่องความถี่ให้เลือกสูงสุด 80 ช่องหลัก โดยมีกำลังส่งไม่เกิน 10 วัตต์ สำหรับภาคเครื่องส่ง

การซื้อและวิธีการใช้งานวิทยุสื่อสาร CB ให้ถูกต้อง

สามารถเลือกซื้ออุปกรณ์วิทยุสื่อสาร CB ได้จากร้านค้าที่เป็นแหล่งจำหน่ายได้ทั่วไป อย่างไรก็ตามจะต้องมีการขอใบอนุญาตสำหรับมีเครื่อง และสำหรับใช้เครื่องได้ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ยกเว้นกรณีที่เครื่องมีกำลังส่งต่ำว่า 500 มิลลิวัตต์ ถือว่าได้รับการยกเว้น ไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาต

ส่วนการใช้งานเครื่องวิทยุ CB นั้น มีหลักสำคัญ ดังนี้

  1. เนื่องจากการใช้งานสำหรับบุคคลทั่วไปอยู่แล้ว ถือว่าเป็นวิทยุที่ใช้ได้อย่างอิสระ โดยนิยมนำไปใช้สำหรับการประสานงาน ทำให้มีช่องไม่เพียงพอ เพราะปริมาณผู้ใช้เป็นจำนวนมาก
  2. วิธีแก้ไขการใช้ก็คือ “แบ่งช่องความถี่” ด้วยกันสำหรับใช้งาน ไม่สามารถล็อคการเป็นเจ้าของช่องความถี่ได้ ดังนั้นจึงไม่มีความเป็น “ส่วนตัว”
  3. กรณีด้านบนที่เกิดขึ้น เมื่อมีผู้ใช้คลื่นความถี่ใดอยู่ จะไม่สามารถขับไล่ออกไปได้ และไม่สามารถแย่งช่องผู้อื่นที่กำลังใช้งานอยู่ได้
  4. ในการเลือกช่องวิทยุ CB จะต้องค้นหาจากช่องที่ว่างอยู่ กรณีไม่มีช่องว่าง จำเป็นต้องรอจนกว่าผู้อื่นจะใช้งานช่องเสร็จแล้ว

ด้วยการใช้งานที่เป็นอิสระสูงของอุปกรณ์วิทยุสื่อสารแบบ CB ผู้ใช้งานจะต้องรู้ด้วยตัวเองว่าต้องแบ่งช่องให้กันใช้ สามารถรอ และใช้งานอย่างมีมารยาท เป็นตัวช่วยที่ดี ทำให้สังคมของคลื่นความถี่นี้มีคุณภาพ และเป็นสังคมที่น่าอยู่

การเช่าวิทยุสื่อสารสำหรับงานองค์กร คุ้มค่าหรือไม่?

การเช่าวิทยุสื่อสารสำหรับงานองค์กร คุ้มค่าหรือไม่?

ว่าด้วยการเลือก เช่าวิทยุสื่อสาร เพื่อใช้งานในบริษัทหรือองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการประสานงาน ติดต่อกันได้อย่างรวดเร็วทันใจ ก่อนจะบอกว่าเป็นสิ่งจำเป็นหรือไม่จำเป็นนั้น สำหรับหลายภาคธุรกิจที่ไม่เคยมองถึงการใช้งานอุปกรณ์สื่อสารชนิดนี้มาก่อน เพราะเรายังมีอุปกรณ์มือถือที่ติดต่อหากันได้ง่ายอยู่ในมือกันทุกคน แต่ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยพิจารณาภาพรวมให้รู้ว่า การใช้วิทยุสื่อสารภายในองค์กรนั้นมีข้อดีอย่างไร จะได้ช่วยเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของผู้ประกอบการ

ถ้าหากคุณกำลังเผชิญปัญหาเหล่านี้ในองค์กร…

1.บริษัทมีขนาดใหญ่ การติดต่อสื่อสารกันยากลำบาก และใช้เวลามาก เนื่องจากแต่ละภาคส่วนอยู่ไกลกัน เช่น หากคุณต้องการติดต่อกับคลังสินค้า ซึ่งถ้าจะต้องเดินทางไป จะต้องเดินไปอีกสองช่วงตึก ซึ่งใช้เวลาเกินครึ่งชั่วโมง เป็นต้น

2.บริษัทของคุณมีต้นทุนค่าใช้จ่ายค่าโทรศัพท์ที่กลายเป็นทุนหนักพอสมควร เพราะไม่รู้ตัวว่าพนักงานต้องติดต่อสื่อสารในเรื่องงานกันเป็นเวลานาน ๆ ต่อครั้ง และบ่อยครั้งในแต่ละวัน ทำให้มีค่าใช้จ่ายเหล่านี้สูงขึ้น แต่ประสิทธิภาพกลับไม่ค่อยดีนักเมื่อเทียบกับเงินที่จ่ายไป

3.มักเกิดข้อผิดพลาดในการสื่อสารหลายต่อหลายครั้ง หรือติดต่อกับอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะต่างคนต่างทำงาน ไม่ได้เตรียมทำหน้าที่สำหรับรับสายจากอีกฝั่งที่ต้องการติดต่อเข้ามา

4.เกิดระบบงานที่ล่าช้า ผิดพลาด เพราะปัญหาต่าง ๆ ที่กล่าวไปข้างต้น จนกลายเป็นความยุ่งเหยิง ทำให้งานเกิดความล่าช้ามากขึ้นไปอีก

5.เกิดความไม่เป็นระเบียบในการทำงาน เพราะการติดตามงานกันล่าช้า ไม่รู้ว่าต้องประสานงานกับใครบ้าง แถมต้องใช้ภาษาที่ยืดยาว ไม่กระชับ เสียเวลาเพิ่มขึ้นไปอีก

แก้ปัญหาการติดต่อล่าช้าในองค์กรด้วย “วิทยุสื่อสาร”

1.เลือกใช้บริการ เช่าวิทยุสื่อสาร ถ้าหากคุณเผชิญกับปัญหาด้านบน ซึ่งจะช่วยแก้ไขตั้งแต่การประสานงานที่รวดเร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

2.วิทยุสื่อสารออกแบบมาให้มีแบตเตอรี่ที่ทนทาน และวัสดุที่อึดถึกต่อการใช้งานในสภาพอากาศต่าง ๆ จึงลดปัญหาเครื่องเสียหาย ไม่ต้องกลัวการติดต่อไม่ได้ แม้จะอยู่ท่ามกลางฝนตกหนัก ลมแรง หรืออยู่กันคนละฝั่งของบริษัทก็ตาม

3.วิทยุสื่อสารที่มีให้เช่าจากบริษัทที่เชื่อถือได้ จะเป็นของแท้และได้รับใบอนุญาตตามกฎหมายชัดเจน จึงมั่นใจในการติดต่อเช่าได้อย่างสบายใจ

4.ลดค่าใช้จ่ายจากมือถือส่วนตัวของพนักงาน เปลี่ยนเป็นการสื่อสารที่ฉับไวด้วยวิทยุ ไม่ต้องใช้ไวไฟ ไม่ต้องใช้อินเตอร์เนต ไม่ต้องวุ่นวายกับการโทรเข้าออกแล้วไม่มีคนรับสาย ใช้งานได้ดีในสถานการณ์ฉุกเฉิน และช่วงเวลาเร่งด่วน

จะเห็นได้ว่านี่การ เช่าวิทยุสื่อสาร ภายในองค์กรเป็นเรื่องที่ดี และช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เราหยิบยกให้ดูได้อย่างมากมาย หากคุณเป็นบริษัทที่ต้องการความรวดเร็วในการติดต่อประสานงานภายใน อุปกรณ์สื่อสารชนิดนี้เรียกได้ว่าคุ้มค่า และตอบโจทย์งานได้เป็นอย่างดี ลดต้นทุนการทำงาน และยังเพิ่มความเป็นมืออาชีพให้กับพนักงานทุกคน และช่วยฝึกความมีวินัยให้ทุกคนไปในตัวด้วย

อยากใช้บริการเช่าวิทยุสื่อสาร เลือกบริษัทไหนที่ไว้ใจได้?

อยากใช้บริการเช่าวิทยุสื่อสาร เลือกบริษัทไหนที่ไว้ใจได้

รู้หรือไม่ว่าการ เช่าวิทยุสื่อสาร กับบริษัทที่มีระบบการบริการที่ได้มาตรฐาน เป็นสิ่งสำคัญ เพราะการใช้งานอุปกรณ์ชนิดนี้จำเป็นต้องมีระบบสัญญาณที่ชัดเจน ดังนั้นตัวเครื่องจะต้องมีคุณภาพทั้งการรับและส่ง อีกทั้งปัจจัยอื่น ๆ ก่อนตัดสินใจเช่า ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการควรทราบ บริษัทที่ให้ บริการเช่าวิทยุสื่อสาร จึงต้องมีความเป็นมืออาชีพ มีความน่าเชื่อถือ ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดี โดยมีหลักการพิจารณาคร่าว ๆ โดยใช้ข้อมูลเหล่านี้เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจได้

แจ้งค่าเช่าวิทยุสื่อสารเอาไว้อย่างชัดเจน

บริษัทที่รับให้เช่าอุปกรณ์วิทยุ จะต้องมีการแจ้งรายละเอียดที่ชัดเจนในเรื่องค่าบริการ ไม่ว่าจะเป็นการเช่าแบบรายวัน รายเดือน หรือรายปี สัญญาชัดเจน บอกรายละเอียดเอาไว้ ไม่หมกเม็ดด้วยค่าใช้จ่ายเสริมอื่น ๆ ที่มาเรียกเก็บภายหลัง ดังนั้นผู้ประกอบการควรสอบถามรายละเอียดให้ดีก่อนตัดสินใจ เปรียบเทียบราคาค่าเช่าและคุณภาพของแต่ละบริษัทว่าที่ไหนจะคุ้มค่ามากกว่ากัน เพื่อช่วยลดต้นทุนในเชิงธุรกิจ จะได้ใช้งานอย่างคุ้มค่า

มีวิทยุให้เลือกสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย

เนื่องจากรูปแบบการใช้งานวิทยุในแต่ละธุรกิจอาจมีความแตกต่างกัน บริษัทที่ทำหน้าที่ให้ เช่าวิทยุสื่อสาร ส่วนใหญ่จะรู้ดี บริษัทที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ จะมีรูปแบบของวิทยุหลากหลายแบบให้ใช้เพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้มากที่สุด เช่น ระบบอนาล็อก, ระบบดิจิตอล, เครื่องมือถือ หรือแบบวิทยุ POC เป็นต้น และควรมีกำลังส่งให้เลือกหลายรูปแบบด้วย จะได้ช่วยให้เกิดความสะดวกสบายต่อผู้เช่า โดยไม่เกิดอุปสรรคตามมา

ความเชี่ยวชาญในการให้คำแนะนำวิธีใช้

แม้จะเป็นการเช่าแบบรายวันก็ตาม บริษัทที่ให้บริการควรมีการดูแลลูกค้าอยู่เสมอ กรณีอุปกรณ์เกิดติดขัดมีปัญหาขึ้นมา สามารถติดต่อได้ โดยเฉพาะการเช่าแบบรายเดือนขึ้นไป จะต้องมีสำรองเครื่องเตรียมเอาไว้ให้ กรณีเครื่องที่เช่าไปเกิดปัญหาใช้งานไม่ได้ จะสามารถเปลี่ยนเครื่องได้ทันทีโดยไม่ต้องรอนาน ทำให้ใช้งานต่อเนื่องได้ไม่ติดขัด

การดำเนินการติดต่อการทำใบอนุญาตให้

โดยทั่วไปวิทยุสื่อสารเครื่องแดงที่จัดให้ใช้งานสำหรับบุคคลทั่วไป หรือที่เรียกกันว่าเครื่อง CB การเช่าจะต้องขอในอนุญาตสำหรับใช้งานเช่นเดียวกันกับการซื้อ ซึ่งบริษัทที่ให้เช่าจะมีบริการดำเนินเรื่องการขอใบอนุญาตให้ เป็นเรื่องปกติ แสดงให้เห็นว่าวิทยุสื่อสารของบริษัทเป็นเครื่องแท้ไม่ได้เกิดจากการดัดแปลงนอกเหนือกฎหมาย ซึ่งนั่นก็แสดงให้เห็นความเป็นมืออาชีพของผู้ให้เช่าได้เป็นอย่างดี

ทั้งหมดนี้คือตัวช่วยพิจารณาในการมองหาบริษัทให้เช่าวิทยุสื่อสารที่มีความเชี่ยวชาญและให้บริการวิทยุที่มีประสิทธิภาพ เพื่อประโยชน์ของผู้ประกอบการและเจ้าของธุรกิจที่ต้องการใช้งานเครื่องมือสื่อสารระยะไกล ให้เข้าถึงการเชื่อมต่อได้ง่าย ไม่ต้องมาเสียน้อยเสียยากตามมาในภายหลัง